การเพิ่มกิจกรรมทางกายด้วยท่าคีตะมวยไทย ในเขตสุขภาพที่ 4 สระบุรี

ปัญหาการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นปัญหาที่สำคัญอย่างยิ่งของระดับโลก ซึ่งเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตของประชาชนทั่วโลกถึงร้อยละ 71 ของการเสียชีวิตทั้งหมดทั่วโลก (WHO, 2561) โดยเฉพาะ 4 โรคสำคัญ ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD), โรคเบาหวาน, โรคมะเร็ง และโรคทางเดินหายใจเรื้อรังเช่นเดียวกับข้อมูลของประเทศไทย พบว่า กลุ่มโรค 5 อันดับแรกที่เป็นสาเหตุของการสูญเสียปีสุขภาวะ ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง ความผิดปกติทางจิต อุบัติเหตุ และความผิดปกติทางการรับรู้ (กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข, 2561) ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าวมาจากสภาวะความเป็นอยู่และวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่า ปัจจัยกำหนดสุขภาพมีหลายปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยทางด้านพันธุกรรม พฤติกรรม สิ่งแวดล้อม การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการเข้าถึงระบบบริการ แต่สาเหตุที่สำคัญของการเกิดโรคมาจากการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยงทางด้านออกกำลังกาย จากรายงานสุขภาพคนไทยระดับเขต พ.ศ. 2555 – 2560 พบว่า ใน พ.ศ. 2558 ประชากรไทยมีการออกกำลังกายน้อยเพียงร้อยละ 36.1 โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชากรในเขตสุขภาพที่ 4 มีการออกกำลังกายเพียงร้อยละ 29.0 ซึ่งเป็นค่าที่ต่ำที่สุดของระดับประเทศ (กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข, 2561) จะเห็นได้ว่าปัญหาไม่มีกิจกรรมทางกายเป็นปัญหาที่สำคัญของเขตสุขภาพที่ 4 จากการวิเคราะห์ปัญหาพบว่า สาเหตุของการที่ประชาชนไม่ออกกำลังกาย เกิดจากการไม่ให้ความสำคัญต่อการมีกิจกรรมทางกาย ขาดความรู้ รวมทั้งไม่มีเวลาเนื่องจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปแบบเร่งรีบ ดังนั้นการให้คำแนะนำในการส่งเสริมสุขภาพด้านการออกกำลังกายที่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งสาคัญที่จะช่วยลดพฤติกรรมเสี่ยงและเพิ่มพฤติกรรมที่พึงประสงค์ ส่งผลทำให้อุบัติการณ์การเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังลดลงได้จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น ศูนย์อนามัยที่ 4 จึงเห็นโอกาสพัฒนาในการจัดทำความรู้และคำแนะนำเรื่องรูปแบบการเพิ่มกิจกรรมทางกายด้วยท่าคีตะมวยไทย ในเขตสุขภาพที่ 4 สระบุรี เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี ซึ่งท่าคีตะมวยไทยมีเพียง 10 ท่าเท่านั้น สามารถทำที่ไหนก็ได้เพียงแค่มีเพลงประกอบไม่ว่าช้าหรือเร็ว มีพื้นที่แคบๆ ที่เป็นส่วนตัวบริเวณโต๊ะทำงาน ก็สามารถทำได้ทั้งเป็นรายบุคคล หรือทำเป็นกิจกรรมกลุ่ม

---